มองบวกหยุดบ่นและไม่คิดแทนคนอื่น
Sirichai Teerapattarasakul / June 19, 2017
1 min read
ไม่ได้เขียนบล็อกมาระยะนึง เพราะงานค่อนข้างเยอะปัจุบันก็ยังเยอะอยู่ เดิมทีคิดว่าตัวเองสามารถโฟกัสงานได้ 3 งาน แต่จริงๆแล้วได้คือ 2 งานเท่านั้น ดังนั้นเลยเปลี่ยนแผนการทำงานใหม่ คือเน้นโฟกัส 2 งาน แต่ก็ดูแล 3-4 งานได้ แต่จะไม่ใช้เวลากับมันมาก เริ่มตอกเรื่องแล้วมาเข้าประเด็นดีกว่า
มีบล็อกก่อนหน้านี้ “คติประจำใจ” เตือนตัวเอง เพื่อไว้อ่านเวลาที่พรั้งเผลอ ซึ่งโดยรวมทำได้ในแต่ล่ะข้อ 80% ขึ้น แต่จะมีข้อที่เราเผลอเรออยู่บ่อยๆ และยังฝึกได้ไม่ดีนัก นั่นคือ
- การมองโลกแง่บวก
- หยุดพร่ำบ่น
- ไม่คิดแทนคนอื่น
ดูแล้วทั้งสามข้อนี้น่าจะจัดอยู่ในประเภทเดียวกันในความคิดเห็นส่วนตัว และมันสำคัญกับการใช้ชีวิตมาก เพราะจะทำให้รับมือกับปัญหาต่างๆ คือมรึงมาท่าไหนกุรับได้หมด
มองบวก ไม่บ่น ไม่คิดแทน
บางทีเรามองบวก หลายคนอาจจะคิดว่าโลกสวย แต่ผมว่ามันดีกว่ามองลบนะ เพราะมองลบแล้วไงก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น เครียด สะมองทึบ จากมุมมองส่วนตัวที่ผ่าน อันนี้สำหรับตัวผมเองนะ คนอื่นๆอาจจะมองลบแล้วเกิดประโยชน์มากกว่า
อีกเรื่องนึงคือ ไม่คิดแทนคนอื่น ไม่ได้หมายถึงเสือกเรื่องชาวบ้าน แต่หมายถึงเหมือนเราเป็นห่วง แล้วเราก็คิดแทน ว่าไม่น่าจะทำอย่างนั้น ไม่ควรจะทำอย่างนี้ ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องของเราเลย
และจากที่ผ่านมา ท่าที่ลองให้ความคิดเห็นดูก็ไม่ได้เกิดประโยชน์เท่าไรนักกับคนรู้จัก ณ ขณะนั้น นั่นเพราะว่ามุมมอง และประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนต่างกัน
เราพูดเท่าไรเขาก็นึกไม่ออกหรอกว่าเราหมายถึงอะไร เพราะสมัยก่อนเวลามีใครมาพูดเรื่องๆดีๆ เรื่องที่ควรทำ ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจนะว่า ทำไปทำไมวะ ! พอมาถึงตอนนี้ อ๋อ! ที่เขาพูดตอนนั้นมันหมายถึงอย่างนี้นี่เอง
ซึ่งแน่นอน ถ้าเรามองบวก และไม่คิดแทนคนอื่นๆ “เราก็จะไม่บ่น” และที่มาเขียนไว้ก็เพื่อย้ำกับตัวเองไปด้วยว่า เหลือแค่ 3 สิ่งนี้แล้วนะที่ต้องจัดการให้ดีขึ้น แล้วชีวิตจะไปได้ไกลกว่า